ร่วมงานและร่วมวางพวงมาลา พิธีระลึกถึงวีรกรรมผู้เสียสละ ประจำปี 2558 ณ ลานผู้กล้าอนุสวรีย์ผู้เสียสละ ค่ายเม็งรายมหาราช ในวันเสาร์ที่ 5 กันยายน 2558











ประวัติอนุสาวรีย์ผู้เสียสละ

กองพันทหารราบที่ ๓ กรมทหารราบที่ ๑๗ ค่ายเม็งรายมหาราช จังหวัดเชียงรายซึ่งมีพลเอก อิทธิ สิมารักษ์ เป็นผู้บังคับกองพัน (ยศในขณะนั้น พันโท) ตลอดจนนายทหาร นายสิบ และพลทหาร รวมทั้งข้าราชการพลเรือน ตำรวจ พ่อค้า ประชาชน ในจังหวัดเชียงราย ต่างตระหนัก และระลึกอยู่เสมอในคุณงามความดี และวีรกรรมในการรบของบรรดาทหารกล้า แห่งค่ายเม็งรายมหาราชซึ่งได้สูญเสียชีวิตและเลือดเนื้อ เพื่อปกป้องคุ้มครองภัยให้กับพี่น้องร่วมชาติด้วยความกล้าหาญ จึงได้พร้อมใจกันจัดโครงการอนุสาวรีย์ผู้เสียสละขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๑๘ โดยได้ดำเนินการจัดหาทุนในการก่อสร้างอนุสาวรีย์ผู้เสียสละ ซึ่งได้รับความเมตตากรุณามุฑิตาจากหลวงพ่อเกษม เขมโกแห่งสุสานไตรลักษณ์ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ได้อนุญาตให้จัดสร้างเหรียญรูปเหมือนของท่าน เพื่อนำไปให้ผู้มีจิตศรัทธาเช่าไว้บูชาเป็นมงคลแก่ตัวเองจนทำให้ได้เงินทุนในการสร้องอนุสาวรีย์จนแล้วเสร็จในปี พ.ศ.๒๕๒๑ รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น ๑๔๙,๙๘๗ บาท

ลักษณะอนุสาวรีย์ผู้เสียสละเป็นหุ่นยืนในลักษณะ "เตรียมประจัญบาน" การแต่งกายใช้ชุดปฏิบัติงานในสนามหรือเรียกว่า "ชุดรบ" ขนาดตัวหุ่นสูง ๒.๕๐ เมตร ทำด้วยทองเหลืองรมดำเม็ดมะขาม ข้างในกลวง ตัวหุ่นตั้งอยู่ฐานสูง ๒.๐๐ เมตร ลักษณะเป็นแท่นสี่เหลี่ยมฐานกว้างกว่ายอด รอบ ๆ ฐานอนุสาวรีย์ปลูกต้นอโศกอินเดียทำให้แลดูสงบและวิเวก สมเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ ที่สถิตดวงวิญญาณคู่บ้านคู่เมืองเชิดชูเกียรติของชายชาติชาญทหารกล้าสืบต่อไป ชั่วกัลปวสาน
          พลเอก สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฏราชกุมาร (ขณะนั้นทรงพระยศ พันเอก) ได้เสร็จทรงประกอบพิธีเปิดอนุสาวรีย์ผู้เสียสละแห่งนี้ เมื่อวันอังคารที่ ๕ กันยายน ๒๕๒๑ ดังนั้นชาวค่ายเม็งรายมหาราชจึงได้ถือเอาวันที่ ๕ กันยายนของทุกปี เป็นวันประกอบพิธีระลึกถึงวีรกรรมผู้เสียสละ ณ บริเวณอนุสาวรีย์ผู้เสียสละแห่งนี้ โดยเชิญชวนข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า ประชาชน สมาคม ชมรมและกลุ่มพลังมวลชนต่าง ๆ ร่วมกันประกอบพิธีวางพวงมาลาเพื่อสักการะองค์อนุสาวรีย์ผู้เสียสละ และร่วมสมทบทุนกองทุนอนุสาวรีย์ผู้เสียสละ เพื่อช่วยเหลือครอบครัวของทหารเสือค่ายเม็งรายมหาราช ซึ่งเสียชีวิตหรือบาดเจ็บทุพพลภาพ จากการรบเพื่อปกป้องพี่น้องชาวไทยต่อไป

No comments:

Post a Comment